Home › บทความ › บทความทั้งหมด › LOGO (โลโก้) ออกแบบยังไงให้ปัง
“LOGO” (โลโก้) คือหน้าตาของแบรนด์สินค้า ที่จะบ่งบอกได้ว่า Character (คาแรคเตอร์) สินค้าของท่านจะเป็นแบบไหน โลโก้ถือเป็นตัวตนที่สามารถดึงดูดให้ผู้บริโภคหันมาสนใจในสินค้าของเรา แต่โลโก้ที่ดีนั้นจะต้องผ่านการออกแบบ ดีไซน์ กระบวนการคิดเพื่อให้ได้โลโก้ที่ออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด วันนี้เราจะพามาดูกันว่าควรออกแบบโลโก้อย่างไรให้สร้างความประทับใจกับลูกค้าเมื่อแรกเห็น
หาจุดเด่นของสินค้า
แน่นอนว่าการจะสร้างโลโก้ก็จะต้องดูจากเอกลักษณ์ของสินค้าและต้องดึงเอาจุดเด่นออกมาเพื่อเป็นการนำเสนอหรือแสดงให้เห็นถึงคุณลักษณะ ประโยชน์ สรรพคุณ ต่างๆ เพื่อเป็นการบอกถึงตัวตนของแบรนด์
สร้างแรงบันดาลใจ
เริ่มแรกสำหรับการออกแบบโลโก้เราต้องสร้างแรงบันดาลใจและต้องหาไอเดียมองหาสิ่งใหม่ๆเพื่อเป็นตัวจุดประกายความคิด เช่น ศึกษาดูต้นแบบจาก การท่องเที่ยว ดูธรรมชาติ งานศิลปะ ถ่ายภาพ เล่นกีฬา เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมต่างนี้ถือเป็นการได้ลองเปิดทัศนคติใหม่ๆที่เราอาจจะยังไม่เคยพบเจอมาก่อนและจะช่วยให้เกิดเป็นไอเดียใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมา
รู้เขารู้เรา
“รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” เป็นวลีเด็ดที่ยังคงใช้ได้จนถึงทุกวันนี้ การศึกษาคู่แข่งให้ลึกซึ้งเจาะให้ถึงเป้าหมาย ความคิด จิตใจ ก็จะสามารถทำให้เรานำคู่แข่งอยู่หนึ่งก้าวเสมอก็จะสามารถกำหนดทิศทางของสินค้าเราได้ว่าจะให้ออกมาเป็นแบบไหน
สร้างประโยคที่โดนใจ
การที่จะดึงดูสายตาของผู้บริโภคให้เข้ามาสนใจในสินค้าของเรานั้นต้องมีคำพูดโปรโมทที่ทำให้สร้าง Impact ต่อการตัดสินใจในการซื้อหรือลงทุนถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้สินค้าของเราขายดีเพิ่มมากขึ้น
เลือกประเภทโลโก้ให้เหมาะสม
คำถามง่ายๆอย่าง โลโก้แบบไหนล่ะที่อยากได้เป็นคำถามยอดฮิตที่ผู้ประกอบการต้องเจอและคำตอบที่ได้ก็มักจะเป็น อยากได้แบบที่มันเจ๋งๆ ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเลยเพราะคุณควรใช้เวลาและหาแบบโลโก้ที่ต้องการที่คุณคิดว่ามันจะเวิร์กกับแบรนด์ของคุณจริงๆ
ประเภทของโลโก้
รูปภาพ (Pictorial) เป็นการออกแบบโลโก้โดยใช้รูปภาพที่จดจำง่าย เช่น แบบที่คุ้นตากันดีกับรูปเส้นโค้งตวัดหางแหลมหรือที่เรียกกันว่า Swoosh ของไนกี้ หรือการใช้รูปแพนด้าขององค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (World Wide Fund for Nature – WWF) ยิ่งถ้าธุรกิจของคุณจะโกอินเตอร์ โลโก้ประเภทนี้ก็จะยิ่งตอบโจทย์เพราะรูปภาพนั้นไม่ต้องการคำแปล นอกจากนี้ยังเหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการทำการสื่อสารด้วยข้อความหรืออารมณ์ความรู้สึกที่ชัดเจนไปยังลูกค้าอีกด้วย ลายกราฟิกหรือ “โมโนแกรม” (Monogram) อย่างของซีเอ็นเอ็น (CNN) หรือนาซ่า (NASA) การออกแบบโลโก้แบบนี้เหมาะกับแบรนด์ที่มีชื่อยาวหรือมีเจ้าของร่วมกันหลายคน เช่น บริษัทด้านเทคโนโลยีสารสนเทศขนาดใหญ่ของโลกอย่างฮิวเลตต์-แพคการ์ด (Hewlett-Packard) ที่ใช้โลโก้ชื่อย่อว่า เอชพี (hp) เป็นต้น การใช้โลโก้แบบโมโนแกรมถือเป็นอีกเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับการทำแบรนด์ดิ้งและการตลาดใช้ตัวอักษรเพียงอย่างเดียว (Wordmark) โลโก้ประเภทนี้จะใช้ชื่อของธุรกิจ สินค้าหรือบริการนั้นๆในการออกแบบและจะเลือกใช้ฟอนต์ที่มีสไตล์เข้ากับลักษณะของธุรกิจ เช่นของเลโก้ (Lego) หรือซัมซุง (Samsung) ถือเป็นโลโก้ที่ง่ายต่อการเข้าใจและอย่าลืมว่าชื่อที่ใช้นั้นต้องไม่ยาวเกินไปมาสคอตหรือตัวการ์ตูนสัญลักษณ์ (Mascot) เป็นการออกแบบโดยใช้รูปคนหรือตัวการ์ตูนมาเป็นโลโก้ เช่นของ พริงเกิลส์ (Pringles) และอังเคิลเบน (Uncle Ben’s) โลโก้ประเภทนี้จะช่วยดึงดูดกลุ่มลูกค้าเด็กและครอบครัวได้ นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการกระตุ้นให้เกิดการมีปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายได้อีกด้วยสัญลักษณ์ (Emblem) เป็นการออกแบบโดยใช้ตราสัญลักษณ์อาจจะเป็นกรอบสี่เหลี่ยม วงกลม โล่หรืออื่นๆที่ประกอบไปด้วยรูปภาพหรือตัวอักษรในกรอบนั้นอีกที เช่นของคอนเวิร์ส (Converse) และบีเอ็มดับบลิว (BMW) ซึ่งการใช้โลโก้แบบสัญลักษณ์จะช่วยสร้างภาพของการเป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือได้ สิ่งที่ควรจำสำหรับการทำโลโก้ประเภทนี้คือต้องง่ายต่อการพิมพ์และต้องไม่มีรายละเอียดปลีกย่อยจนเกินไปรวมทุกแบบเข้าด้วยกัน (Combination) เป็นการออกแบบที่รวมกันระหว่างตัวอักษรและรูปภาพในโลโก้เดียวกัน เช่น อเมซอน (Amazon) และดังกิ้นโดนัท (Dunkin’ Donuts) ซึ่งเป็นหนึ่งในประเภทของโลโก้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
หัวทันสมัย ห้ามตกเทรนด์ อย่าหยุดที่จะเรียนรู้
นอกจากที่จะต้องศึกษาคู่แข่งแล้ว สำหรับตัวเราเองก็ต้องไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเองเราต้องค้นคว้าหาความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอ เพราะหากเราย่ำอยู่กับที่ ก็จะตามความทันสมัยของสังคมในปัจจุบันไม่ทันและจะต้องหาความแตกต่างให้แบรนด์ของเราได้โดดเด่นกว่าใคร
หมั่นฝึกตัวเอง
หมั่นฝึกฝนตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพราะการทำงานที่ขึ้นชื่อว่าอาชีพแล้วต้องฝึกหัดตัวเองอยู่ตลอดเวลาต้องมีการพัฒนาอยู่เสมอ เพราะถึงจะมีพรสวรรค์มากแค่ไหนก็จะต้องใช้พรแสวงเข้ามาช่วยทำให้ผลงานออกมาดี
ทั้งหมดนี้เป็นเทคนิคของการออกแบบที่จะทำให้คุณดีไซน์ LOGO ให้ออกมาโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ยังสามารถนำเอาไปใช้สำหรับการออกแบบให้กับสินค้าหลากหลายประเภทที่จะช่วยทำให้ดีไซน์ออกมาง่ายขึ้นทำให้แฮปปี้ทั้งผู้ประกอบการและผู้ออกแบบเพื่อผลงานที่ออกมาดูดีมากที่สุด