การดราฟท์ (Draft) งานพิมพ์บรรจุภัณฑ์ สิ่งสำคัญที่ลูกค้าจำเป็นจะต้องรู้ - 1

การดราฟท์ (Draft) งานพิมพ์บรรจุภัณฑ์ สิ่งสำคัญที่ลูกค้าจำเป็นจะต้องรู้

การดราฟท์ (Draft) คือกระบวนการคัดลอกแบบหรือลอกแบบต้นฉบับของบรรจุภัณฑ์ให้ออกมาคล้ายกับต้นแบบมากที่สุด โดยใช้โปรแกรมออกแบบกราฟิก เช่น Adobe Illustrator (AI) หรือ Photoshop (PSD) เพื่อสร้างไฟล์เวกเตอร์หรือภาพความละเอียดสูงที่เหมาะสำหรับการพิมพ์จริง แม้จะไม่สามารถลอกได้ 100% แต่สามารถทำให้ใกล้เคียง 70-90% ได้ หากมีไฟล์ต้นฉบับประกอบ เช่น โลโก้ ฟอนต์ หรือภาพสินค้า

ความแตกต่างระหว่างไฟล์ดราฟท์ กับ ไฟล์งานสแกน

รายการเปรียบเทียบงานดราฟท์ (Draft)ไฟล์งานสแกน
ลักษณะไฟล์วาดขึ้นใหม่เป็นเวกเตอร์รูปภาพหรือ PDF ที่สแกนมา
ความใกล้เคียงต้นฉบับประมาณ 70–90%ใกล้เคียง 100% (ขึ้นกับต้นฉบับ)
ความคมชัดสูง (หากวาดใหม่ดี)อาจลดลง 10–15%
ความยากในการผลิตสูง ถ้าไม่มีไฟล์ประกอบต่ำกว่า เพราะมีข้อมูลอยู่ครบ
ใช้เวลาในการทำมากกว่าการสแกนน้อยกว่า
ความยืดหยุ่นในการแก้ไขแก้ไขง่าย (เพราะเป็นเวกเตอร์)แก้ไขยาก (เพราะเป็นภาพแรสเตอร์)
การดราฟท์ (Draft) งานพิมพ์บรรจุภัณฑ์ สิ่งสำคัญที่ลูกค้าจำเป็นจะต้องรู้ - 2

ขั้นตอนการเตรียมไฟล์งานดราฟท์ให้พร้อมสำหรับโรงพิมพ์

  1. เตรียมงานต้นฉบับที่ต้องการให้ดราฟท์

    ใช้ภาพถ่ายคุณภาพสูงของบรรจุภัณฑ์จริง หรือสแกนด้วยความละเอียดอย่างน้อย 300 dpi คือความละเอียด ถ้าเป็นไปได้ ส่งทั้งไฟล์ต้นฉบับ และภาพถ่ายทุกมุมของสินค้า

  2. แนบไฟล์โลโก้ รูปภาพ และฟอนต์ที่ใช้

    ไฟล์โลโก้ควรเป็นไฟล์ .AI หรือ .EPS รูปภาพควรมีความละเอียดสูง และไม่มีลายน้ำ ฟอนต์ที่ใช้ควรแนบไฟล์ .TTF หรือ .OTF มาด้วยเพื่อป้องกันการเพี้ยน

  3. ระบุรายละเอียดสำคัญของบรรจุภัณฑ์

    ขนาด (กว้าง x ลึก x สูง) สีที่ต้องการ (Pantone / CMYK) ตำแหน่งโลโก้ , ข้อความ , Barcode และจำนวนที่ต้องการผลิต

  4. ตรวจสอบความถูกต้องก่อนส่ง

    ตรวจคำผิด ขนาดของ Layout ตรวจสอบการจัดวางองค์ประกอบให้อยู่ในพื้นที่พิมพ์

ไฟล์ที่โรงพิมพ์ยอมรับสำหรับการผลิต

ประเภทไฟล์รายละเอียด
PDFเป็นหนึ่งในรูปแบบไฟล์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการพิมพ์บรรจุภัณฑ์ เนื่องจากจะรักษารูปแบบงาน รวมถึงข้อความ รูปภาพ และกราฟิกได้เป็นอย่างดี
AI / EPSเป็นรูปแบบเวกเตอร์ที่ใช้กันทั่วไป สำหรับงานกราฟิก หรือภาพประกอบ เช่น โลโก้ และข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการใช้ AI คือช่วยให้คุณสร้างกราฟิกที่ปรับขนาดได้ทุกขนาดโดยไม่สูญเสียคุณภาพนั่นเอง
JPEGเป็นรูปแบบไฟล์ภาพบีบอัดที่ใช้กันทั่วไปสำหรับภาพถ่าย และภาพที่มีรายละเอียดมาก
PSDเป็นรูปแบบแรสเตอร์ (Raster) ที่สามารถเปิด และแก้ไขได้โดยโปรแกรมออกแบบกราฟิก ทำให้เป็นรูปแบบไฟล์ที่โรงพิมพ์ยอมรับอย่างกว้างขวาง
การดราฟท์ (Draft) งานพิมพ์บรรจุภัณฑ์ สิ่งสำคัญที่ลูกค้าจำเป็นจะต้องรู้ - 5

Q/A ตอบคำถามกับสิ่งที่ลูกค้าอาจสงสัย ?

ทำไมต้องตรวจงาน Draft ก่อนพิมพ์บรรจุภัณฑ์ ?

เพื่อป้องกันข้อผิดพลาด เช่น คำผิด ข้อมูลไม่ครบ หรือการจัดวางที่ไม่เหมาะสมก่อนเข้าสู่กระบวนการผลิตจริง

งาน Draft และสแกนมีค่าใช้จ่ายต่างกันไหม?

ขึ้นกับความยากง่ายของไฟล์ต้นฉบับ หากไม่มีไฟล์ประกอบ โรงพิมพ์อาจคิดค่าดราฟเพิ่มเติม

Draft ให้เหมือนต้นฉบับได้ 100% หรือไม่?

ไม่สามารถ 100% ได้ เนื่องจากบางฟอนต์หรือภาพอาจมีลิขสิทธิ์ แต่สามารถใกล้เคียงได้มากหากมีไฟล์ประกอบครบ

งาน Draft มีประโยชน์อย่างไร?

ช่วยร่างภาพรวมก่อนการพิมพ์ ลดเวลาทำซ้ำ แก้ไขง่าย และใช้เป็นแม่แบบในอนาคตได้

สรุป

การดราฟท์ไฟล์สำหรับงานพิมพ์บรรจุภัณฑ์ เป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและใกล้เคียงต้นฉบับมากที่สุด การเตรียมข้อมูลที่ถูกต้อง ชัดเจน และครบถ้วน จะช่วยให้โรงพิมพ์สามารถผลิตงานได้ตรงความต้องการ ลดข้อผิดพลาด และเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าได้อย่างสูงสุด