Showing all 8 results
-
กล่องอาหารเสริม ราคาถูก สั่งได้ดังใจ
-
พิมพ์กล่อง กล่องอาหารเสริม
-
รับทําแพคเกจจิ้งราคาถูก
-
กล่องอาหารเสริม คุณภาพดี
-
กล่องอาหารเสริมสวยๆ
-
รูปแบบกล่องอาหารเสริม
-
ออกแบบกล่องลิปสติก
-
บรรจุภัณฑ์กระดาษ | รับออกแบบบรรจุภัณฑ์
ออกแบบกล่องสินค้า
โรงพิมพ์กล่องThaiprintshop รับผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์ กล่องใส่สินค้า ผลิตและออกแบบที่นี่ที่เดียวครบ
มีทั้งพิมพ์แบบ Off-set และ ดิจิตอล พร้อมออฟชั่นเสริมมากมายให้เลือก
ราคาถูก ลดกว่า 50% ผลงานกว่า 3,000 แบรนด์
มี GRAPHIC DESIGN รับออกแบบกล่อง
พิเศษ !!!ค่าออกแบบ เริ่มต้นที่ 950 บาท
เราไม่ใช่นายหน้า ผลิตเองครบวงจร มีระบบโอนเงินปลอดภัย
เราเลือกใช้กระดาษอาร์ตการ์ดหนา 350 แกรม อย่างดี ทุกเรทราคา
สอบถาม ปรึกษา ADD FRIEND อัตโนมัติผ่านมือถือ
ราคาพิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์ เกรดพรีเมี่ยม
ขนาดกางออกไม่เกิน A4 (21×29.5 cm.) กระดาษอาร์ตการ์ด 350 แกรม เคลือบเงา หรือ ด้าน ก็ได้
Option เพิ่ม Spot UV เงาเฉพาะจุด หรือ ปั้มทอง ปั้มเงิน ปั้มนูน
| จำนวน | ใบละ | รวมราคา (ผลิต 3-5 วัน*) |
|---|---|---|
| 100 ใบ | 25 | 2,500 |
| 500 ใบ | 8 | 4,000 |
| 1,000 ใบ | 5 | 5,000 |
การวัดขนาดสินค้า และ ขนาดกล่องบรรจุภัณฑ์
หมายเหตุ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลง โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า กรุณาสอบถามฝ่ายขาย อ่านเงื่อนไขการบริการ อย่างละเอียดก่อนเริ่มงาน คลิกเลยเงื่อนไขการบริการ
สงวนสิทธิ์การเข้าดูสีหรือ ปรับสี หน้าแท่นพิมพ์ หรือ ที่โรงงาน ทุกกรณี ไม่สามารถทำได้
หมายเหตุ ถ้าลูกค้าเลือกพิมพ์งานเลย์ร่วม ลูกค้าต้องยินยอมรับเงื่อนไขที่กำหนดเงื่อนไขการชำระเงิน
(หมายเหตุ : ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการขอคืนเงินมัดจำทุกกรณี)ขั้นตอนการสั่งผลิต
– ถ้าไฟล์สมบูรณ์แบบ สามารถเริ่มได้เลย
– ถ้าไฟล์ไม่สมบูรณ์ ต้องเคลียร์ไฟล์เพื่อให้ใช้งานได้
– รูปแบบกล่องที่ต้องการ เช่น กล่องใส่ครีม กล่องใส่สบู่ กล่องใส่น้ำหอม เป็นต้น
– ขนาดกล่องสำเร็จ กว้าง x ยาว x สูง เป็น เซ็นติเมตร
– ต้องการพิมพ์กี่สี เช่น พิมพ์รูปภาพ 4 สี สีขาว และสีตัวอักษร
– ต้องการพิมพ์จำนวนเท่าใด เริ่มต้น 100 ใบ
การสั่งผลิตทุกครั้ง ถ้าลูกค้ามีการปรับเปลี่ยนขนาดกล่องหรือสเปคกล่อง ต้องทำการขอราคาใหม่ทุกครั้ง
อ่านเงื่อนไขการเคลม อย่างละเอียด คลิกเลย
การออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์
ในปัจจุบันมีแนวความคิดในการออกแบบมาหลากหลาย ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น ไม่ว่าจะเลือกสินค้านั้นเพราะบอกต่อๆกันมา จากโฆษณาชวนเชื่อ จากทางสื่อออนไลน์ และที่สำคัญมาจากความน่าสนใจของแพกเกจจิ้ง ซึ่งทำให้ลูกค้าเกิดความอยากที่จะทดลองซื้อสินค้าตัวนี้มาเพื่อตอบโจทย์ตัวเอง ตลาดผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท จึงมีความตื่นตัวกันมากในการทำให้สินค้าของตัวเองเป็นที่สะดุดตาแก่ผู้บริโภค เพื่อสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ออกมาเพื่อตอบโจทย์ความให้กับลูกค้าได้อย่างลงตัวที่สุด
เทคนิค 3 ข้อในการออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์ที่คุณต้องมี
1. แสดงความเป็นตัวของตัวเอง
เพื่อนำเสนองานที่มีอยู่ โดยควรสร้างให้ดูน่าสนใจ และควรให้เหมาะกับผลิตภัณฑ์ เพื่อการสร้างประโยชน์ใช้สอยให้ได้มากที่สุด และควรแสดงความความรู้สึกที่เป็นด้านบวก ซึ่งก็จะทำให้เกิดผลดีต่อการตลาด
2. ออกแบบให้น่าสนใจ
ไม่ควรจะออกแบบที่มันดูธรรมดาจนเกินไป ไม่ควรสร้างเลียนแบบคู่แข่งให้เหมือนกันเลย และไม่ควรทำให้คล้ายลักษณะเด่นของแบรนด์ใหญ่แบรนด์ดัง เพราะอาจเกิดการสับสน และนำมาสู่การฟ้องร้องได้
3. ออกแบบด้วยความใส่ใจ
จะออกแบบให้ดี น่าใช้ ไม่ได้เป็นการออกแบบที่เน้นไปที่ความสวยงามเพียงอย่างเดียว บางคนอาจจะใส่รายละเอียดที่แสดงตัวตนออกไปจนเยอะเกิน จากนั้นก็นำไปขายรวมกับแบรนด์ที่ทำตลาดอยู่ก่อนแล้ว และกระหน่ำโฆษณาเพื่อเพียงหวังให้คนหันมาสนใจ
นอกจากการออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์ให้สวยงามแล้ว ก็ต้องไม่พลาดเทคนิดตีตลาดให้โดนใจลูกค้า!
1.ให้ความสำคัญกับจุดยุทธศาสตร์การวางสินค้า
การนำไปขายรวมกับแบรนด์ใหญ่ นี่ก็เป็นจุดหนึ่งที่หลายคนไม่ได้ใส่ใจ เพราะการนำไปวางขายกับแบรนด์ใหญ่ๆ จะให้ความสนใจได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะคนที่เคยซื้ออะไรประจำ ก็จะซื้อแบบนั้นประจำ เหมือนเราใช้ถนนนั่นแหละ เราขับเส้นนี้มาตั้งแต่เด็กๆ ต่อให้ใครมาบอกว่าอีกเส้นใกล้กว่านะ แต่เราก็ยังใช่ถนนเสมอ การเลือกของคนก็เช่นกัน บางคนอาจจะมีหยิบติดมือไปบ้างเหมาะเป็นของใหม่ แต่สุดท้ายแล้วความสนใจก็จะหายไป เทคนิคคือให้วางขายปนไปกับแบรนด์เล็กๆ ที่พอขายได้ เพราะการทำตลาดที่ดี ควรเริ่มกับคู่แข่งที่เท่าเทียมกันก่อน
2.เลือกกลยุทธ์การทำโฆษณาให้ดี
รู้ตัวอีกทีก็เสียค่าโฆษณาไปเยอะแล้ว ทั้งเจ็บใจและไม่ได้ผลตอบรับกลับมาตามที่หวัง นั่นเป็นเพราะผู้คนจะสนใจแค่ตอนแรกเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว ก็จะหมดความสนใจไปโดยปริยาย บางแบรนด์ใช้การตลาดแนวบังคับ คือช่วงแรกให้โปรโมชั่นที่ถูก พอมีคนสนใจก็ค่อยอัพราคาขึ้น ซึ่งแนวคิดนี้จะใช้ได้แค่กับกลุ่มที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น ทำให้ผู้ผลิตสามารถทำตลาดได้เฉพาะกับกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น ไม่สามารถตีตลาดคนส่วนมากได้ จึงมีหลายบริษัทที่ปิดตัวลง เพราะฉะนั้นต้องระวังให้ดี
3.เชื่อมั่นในสินค้าของคุณ
ปัญหาทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานั้น ทางแก้ที่ดีที่สุดคือการทำแบรนด์สินค้าของเราให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ จงเชื่อมั่นในคุณภาพและมาตรฐานการผลิตของคุณ ถ้าตัวผลิตภัณฑ์ของเราใช้งานได้ดี สักวันก็ต้องมีคนเห็นคุณค่าและให้ความสนใจได้แน่นอน