กล่องบรรจุภัณฑ์

กล่องบรรจุภัณฑ์ โดนใจ ใครๆก็อยากโดน !

กล่องบรรจุภัณฑ์ หมายถึง เมื่อเรามีแพ็คเกจแล้ว เราก็จะต้องมีบรรจุภัณฑ์มาใส่เพื่อให้ปรับระดับสินค้าของเรามากยิ่งขึ้น สิ่งที่เราจะต้องใส่ลงไปในกล่องบรรจุภัณฑ์นั้นก็จะเป็นแพ็คเกจที่เราทำไว้นั่นเอง ซึ่งเป็นอะไรที่ดึงดูดคุณลูกค้ามาก

การทำกล่องบรรจุภัณฑ์ หรือบรรจุภัณฑ์ให้น่าสนใจนั้นจะต้องมีความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นของตัวเองสูง ไม่ลอกเลียนแบบใคร หากเกิดการลอกเลียนแบบแล้ว ลูกค้าก็จะนำมาเทียบกัน หากนำมาเทียบแล้วของคู่แข่งดีกว่าของเรา ผลิตภัณฑ์ของเราก็อาจจะถูกมองข้าม ไปสนใจผลิตภัณฑ์คู่แข่งแทน สิ่งที่เราทำมาอาจจะกลายเป็นศูนย์ก็ได้ เพราะฉะนั้น ความสามารถ จินตนาการ มีการเท่าไหร่ ใส่เข้าไปในงานให้หมด แล้วมันจะออกมาเป็นตัวตนของเราที่ใครไม่สามารถมาลอกเลียนแบบได้

เราจะมาบอกเคล็ดไม่ลับ

ให้ทุกท่านได้ลองนำไปใช้ในการทำบรรจุภัณฑ์ของแต่ละคนดู เผื่อจะได้เป็นแนวทางให้ทุกคนทำกล่องบรรจุภัณฑ์ออกมาให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น

ประการแรก

มีแพ็คเกจที่ชัดเจน และความต้องการที่ชัดเจนและโดนใจ ต้องมีแพ็คเกจที่สมบูรณ์แบบแล้ว และชัดเจน และจะไม่มีการเปลี่ยนขนาดใดๆแล้ว จากนั้นจึงเริ่มศึกษาความต้องการที่ชัดเจนว่า หากทำแบบนี้ไปแล้วจะดีไหม ? อย่างไร ? ต้องศึกษาและลงมือทำ ลองร่างๆดู ให้เข้ากับแพ็คเกจและตอบโจทย์

ประการที่สอง

มีหัวคิดริเริ่มที่จะสร้างสรรค์ ใส่จินตนาการที่ตนเองมีเข้าไปในงานศิลปะที่เรากำลังออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์ เทใจให้งานไปเลย แล้วอะไรๆก็จะออกมาดีตามที่เราหวังไว้ โดนที่เราไม่ต้องไปลอกของใคร พร้อมติดลิขสิทธิ์เป็นงานของเราไปเลย และในงานพวกนี้จะต้องใจเย็น และละเอียดอ่อนกับงาน มือเบา หากใจร้อนพรวดพลาดทำมันลงไป อาจจะทำให้กล่องบรรจุภัณฑ์ออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ตั้งใจไว้มากนัก

ประการที่สาม

ใส่ความรอบคอบลงไปในงาน และชัดเจนในทุกส่วน รอบคอบในทุกขั้นตอนที่กำลังลงมือทำไป และลงรายละเอียดอย่างชัดเจน ไม่วอกแวก ไม่ใจหวิวหากเจออะไรที่ส่วนกว่าของตนเอง ให้คำนึงไว้เสมอว่า เราทำดีแล้ว และไม่ได้ไปลอกความคิดของใครมา มันมีความชัดเจนในส่วนของเรา เช่น กล่องบรรจุภัณฑ์ใหญ่เกินไปไม่สมดุลกับผลิตภัณฑ์ในกล่อง

เราก็ต้องนำกลับมาทำให้มันสมดุลกัน หรือผลิตภัณฑ์ในนั้นอาจจะใหญ่เกินไปและล้นออกมาจากกล่องบรรจุภัณฑ์เราก็ต้องนำมาปรับให้มันใหญ่ขึ้นกว่าผลิตภัณฑ์ บางคนอาจจะบอกว่า ดูรกรุงรังเกินไป น่าจะเอาอะไรที่มันเรียบกว่านี้มาออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์เราก็ต้องเก็บคำพูดที่เขาติชมเรา มาเก็บเป็นคำที่จะนำมาปรับปรุง กล่องบรรจุภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ของเราให้ดีกว่าเดิม

ประการที่สี่

คำติชมจากผู้เชี่ยวชาญ ลองพูดคุยหรือถามกับผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในด้านการออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์ ว่าสิ่งที่เราทำออก

ไปมันดีมากไหม ?

ด้อยมากไหม ?

จุดเด่นไหม ?

เรียกลูกค้าให้มาสนใจ เรียกให้ลูกค้าชอบสินค้าของเราได้หรือเปล่า ?

หากไม่ได้แล้วนั้น หรือไม่ตอบโจทย์ก็ขอให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยแนะนำและช่วยหาทางแก้ไขให้มันดีกว่าเดิม และตอบโจทย์มากกว่าเดิม

ประการที่ห้า

ลงวางขาย ลองลงวางขายก่อนซัก 2-3 วันและลองรับคำรีวิวจากลูกค้าที่มาซื้อผลิตภัณฑ์ของเรา ถ้าหากถูกใจ เขาจะให้รีวิวดีและกลับมาซื้ออีก หากไม่ดีหล่ะก็ เขาจะไม่กลับมาอีกเลย เพราะฉะนั้น สำคัญคือ ต้องออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์ยังไงให้น่าสนใจ และสอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ที่เราใส่ลงไปในกล่องบรรจุภัณฑ์

ประการที่หก

คำติชมจากลูกค้า นี่เป็นสิ่งสำคัญที่เราจะทำมันต่อไปได้หากลูกค้าชอบทั้งกล่องบรรจุภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ด้านในนั้นมันจะเป็นสิ่งดี ต่อตัวเราและผลิตภัณฑ์ของเราเอง และทำให้สินค้าของเราออกไปสู่ตลาดได้มากขึ้น จากปากลูกค้าเพียง 1 ปาก ก็จะต่อยอดไปมากกว่า 2-3 คนอาจจะมากกว่านั้น พูดและเล่าสู่กันฟังให้เขาได้รู้ว่าสินค้าของเราเป็นอย่างไรและดีอย่างไร ดึงดูดลูกค้าได้มากน้อยแค่ไหน ตอบโจทย์มากไหม ? หากลูกค้าเป็นวัยรุ่นต้องออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์ยังไงให้เขาชอบและอยากกลับมาซื้ออีก และหากเป็นวัยทำงานวัยชรา จะต้องทำยังไงให้เขาสนใจและอยากซื้อ นี่คือสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด

ทั้ง 6 ประการนี้หากท่านลองทำ

การทำกล่องบรรจุภัณฑ์ของท่านก็ไปได้สวยและลื่นแน่นอน ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเราต้องกำหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายไว้ที่เหมาะสำหรับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของเราที่เราคิดไว้ หากคิดสินค้าไว้แต่ไม่ตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าที่วางไว้ ก็จะเป็นศูนย์ทันที ก่อนจะทำอะไรต้องเจาะตลาดเป้าหมายว่าปัจจุบันเขาต้องการอะไร และแบบไหน วิ่งเข้าหาทุกสิ่งแล้วเราจะประสบความสำเร็จ

แน่นอนลูกค้าต้องการอะไรที่มันชัดเจนและตอบโจทย์แปลกใหม่ ซึ่งมันง่ายสำหรับการออกแบบทำ แต่มันยากสำหรับการที่จะทำให้เขาชอบ เพราะฉะนั้นเราจะต้องกลับไปคิดว่า ทำยังไงถึงจะให้เขาชอบในสิ่งที่เราออกแบบดีไซน์ทำเพื่อพวกเขา เอาใจเขามาใส่ใจเรา และเราจะเข้าใจซึ่งกันและกัน ลองทำอะไรที่มันตอบโจทย์ดู คุณทำมันไปรุ่งแน่นอนค่ะ